เขตการค้าเสรี (Free Trade Zone (FTZ)) ในประเทศไทยนั้นจัดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่อเป้าหมายในการทำการค้า โดยมีการลดภาษีศุลกากรระหว่างกันภายในสินค้าเฉพาะกลุ่ม ที่ทำข้อตกลงให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็น 0% โดยในประเทศไทยนั้นเขตการค้าเสรีจัดตั้งขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนและการค้าในระดับนานาชาติ ผ่านการอำนวยความสะดวกในการจัดการและการขนส่ง โดยประเทศไทยนั้นจัดเป็นเป้าหมายทางการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการในระดับนานาชาติ ที่กำลังทำธุรกิจภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บทความนี้เลยอยากนำเสนอ 5 ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการควรรู้เกี่ยวกับเขต FTZ ในไทยมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. สิทธิประโยชน์ทางด้านศุลกากรและภาษี
สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในเขต FTZ จะได้รับประโยชน์ทางภาษี ดังนี้:
การยกเว้นภาษีอากร: หากผู้ประกอบการมีการดำเนินธุรกิจภายในเขต FTZ ทางผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นการเสียภาษีอากร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการนำเข้าสินค้าหรือวัสดุต่างๆ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมาก
การผ่อนปรนภาษีเงินได้: ผู้ประกอบการในเขตการค้า FTZ สามารถผ่อนปรนการชำระ ภาษีเงินได้จนกว่าสินค้าจะออกจากเขต FTZ เพื่อการค้าในประเทศไทยหรือการส่งออกสู่ต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมกระแสเงินในการดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น
2. ข้อได้เปรียบทางการดำเนินงาน: ขนสินค้าส่งสะดวกและขั้นตอนทางเอกสารที่เรียบง่ายกว่า
เขต FTZ นั้นได้ถูกออกแบบให้เหมาะกับการขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ ดังนั้นแล้วจึงมีโครงสร้างและระเบียบที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสินค้าเข้าหรือออกประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างในกรณีสินค้านำเข้า เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสารอากร ถ้าหากทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่าสินค้าเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง FTZ จะมีตรวจสอบที่รวดเร็วกว่าในการดำเนินเรื่อง ถ้าหากเทียบกับการตรวจสอบสินค้าที่จะต้องเข้าไปเก็บในพื้นที่เขตการค้าหรืออุตสาหกรรมทั่วไป ดังนั้นแล้วการจัดการและลำเลียงสินค้าในเขต FTZ จึงว่องไวกว่า และทำให้ธุรกิจสามารถทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น มีเวลาในการทำงานด้านอื่นๆ มากขึ้น
3. สนับสนุนการลงทุนต่างชาติ
การจัดตั้งเขตการค้าเสรี นับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทยเพื่อดึงดูดการลงทุนจากผู้ประกอบการระดับนานาชาติ โดยกฎหมายอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจในเขต FTZ อันมีข้อได้เปรียบทางโอกาสและค่าใช้จ่าย ทำให้เขต FTZ เป็นหนึ่งในแม่เหล็กดึงดูดโอกาสทางธุรกิจกับนักลงทุนต่างชาตินั่นเอง
4. ทำเลที่ตั้งที่เอื้อต่อการค้าและส่งออก
เขต FTZ ในประเทศไทยนั้น จะตั้งอยู่ในจุดที่มีข้อได้เปรียบสำหรับการค้าในระดับนานาชาติ โดยทำเลที่ตั้งเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ดึงดูดผู้ประกอบการจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากทำให้การดำเนินธุรกิจนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น จะขนส่งสินค้าจากไทยสู่ต่างประเทศก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะเขต FTZ เหล่านี้ตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่ใกล้กับสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ หรือท่าเรือสินค้าขนาดใหญ่อย่าง ท่าเรือแหลมฉบัง ด้วยระยะทางในการลำเลียงสินค้าที่รวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกได้ไวยิ่งขึ้นและทำให้ระบบการขนส่งสินค้าเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
5. การส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจ
เขตการค้าเสรี จะมีเป้าหมายในธุรกิจเฉพาะกลุ่ม เช่น เทคโนโลยี ชิ้นส่วนอะไหล่ หรือการบริการด้านโลจิสติกส์ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ เป็นหนึ่งในวิธีการส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจในประเทศไทย กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจภายในและภายนอกประเทศมากยิ่งขึ้น ประโยชน์เหล่านี้ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่น่าดึงดูดสำหรับธุรกิจทั่วโลกที่ต้องการขยายการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชีย และเขต FTZ ในประเทศไทยช่วยสร้างภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและหลากหลายมากขึ้นโดยการส่งเสริมการเติบโตในพื้นที่เหล่านี้
โดยรวมแล้ว เขตการค้าเสรีของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศ ด้วยแรงจูงใจทางด้านศุลกากรและภาษีที่ดีเยี่ยม การมีข้อได้เปรียบในการดำเนินงานที่รวดเร็ว การอำนวยความสะดวกทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมความหลากหลายทางเศรษฐกิจ FTZs จึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของธุรกิจ บริษัทที่ดำเนินงานภายในเขตเหล่านี้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ และต่อคู่ค้าที่ทำงานด้วยในประเทศไทย หากมีคำถามเรื่องเขตการค้าเสรีหรือ สำหรับใครกำลังมองหาพื้นที่โกดังหรือโรงงานในขนาด 300-30,000 ตารางเมตรในสมุทรปราการเพื่อการเช่าในการดำเนินธุรกิจแล้ว สามารถติดต่อพวกเราได้ที่: https://www.thaiindustrialproperty.com/contact/